วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาจารย์สุรวงศ์ วัฒนกูล

ผู้ปกครองควรมีอุบายให้ลูกของเราอ่านหนังสือ อาจจะขอให้เขาช่วยอ่านหนังสือให้ฟัง ช่วยหาข้อมูลต่างๆ โดยเอาประเด็นสำคัญๆ ที่น่าสนใจ มาเล่ามาอธิบายให้เราฟัง เขาจะรู้จักวิธีค้นหาความรู้ นั่นก็จะเป็นการสร้างเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กไปในตัวด้วย

สำหรับเด็ก ควรให้เขาอ่านอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ตำราหรือหนังสือเรียน ให้หาข้อสรุปให้เจอว่าเขาได้อะไรจากการอ่านหนังสือเล่มนั้น ที่ไม่เยอะมากนัก แล้วนำมาวิเคราะห์กันในชั้นเรียนแล้วให้คะแนนเขา ในต่างประเทศเขาจะพาเด็กไปดูหนัง แล้วให้เด็กวิเคราะห์ดูว่าได้ความคิดอย่างไรเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตการเรียนการทำงานอย่างไรบ้างทำให้รู้สึกว่าการเรียนมันสนุกขึ้นกว่าเดิมมาก สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ แต่เดิมที่ผ่านมาเรามักจะตีความว่า ถ้าวิชาการหมายถึงตำราที่กระทรวงศึกษาหรือทบวงมหาวิทยาลัยจัดทำขึ้น จริงๆ แล้วทุกอย่างเป็นวิชาการหมด เพราะ การ คือสิ่งที่กระทำ วิชาคือความรู้ เพราะฉะนั้น ให้เขาอ่านอะไรก็ได้ที่ไม่น่าเบื่อ จะเห็นว่านักเรียนหยิบตำราของโรงเรียนมาอ่านแล้วหลับ ถ้าให้สนุกกว่านั้นการเรียนการสอนสมัยนี้ครูอาจารย์น่าจะเอาทฤษฏีมาแล้วประยุกต์ใช้ด้วยการสอนที่ไม่น่าเบื่อ เด็กก็จะมีความสุขและจะเรียนสนุกกว่าเดิม

ผมชอบอ่านหนังสือประเภทเกร็ดความรู้จากประสบการณ์ หากความรู้ที่จะนำไปประกอบการบรรยายหรือไปพูดที่ไหน ต้องหาหนังสือที่เป็นทฤษฏีจริงๆ อ้างอิงได้มาอ่านเพื่อแนวคิดที่เป็นมาตรฐาน เมื่อนำไปบรรยายก็ไม่ผิด อ่านแล้วเราก็มานั่งดูต่อว่า หลักการที่เราอ่านมานั้นมันตรงกับประสบการณ์จริงที่คนอื่นเคยเจอและเราเคยพบอย่างไรบ้าง ผมชอบอ่านประเภทหนังสือทฤษฎี เพื่อกรุยทางให้เราคิดได้ ชอบอ่านเกร็ดความรู้ ประสบการณ์ในการทำงาน และจะได้เห็นว่าความรู้นอกตำรามีอะไรบ้างที่เราควรจะเรียนรู้เพิ่มเติม ล่าสุดผมอ่านเถ้าแก่มือโปร ซึ่งเขียนโดยคนอเมริกันที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย 10 กว่าปีแล้ว เขามองประเทศไทยแบบตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ดีเพราะถ้าคนไทยเขียน ก็จะเขียนแบบเข้าข้างตัวเอง แต่การที่คนอเมริกันมาอยู่ที่เมืองไทยนานและพยายามปรับตัวเป็นคนไทย แต่พูดตรงไปตรงมา ทำให้เราได้ข้อคิดอะไรเยอะมาก การที่เราได้อ่านหนังสือที่คนอื่นมองเมืองไทย แล้วสรุปเป็นหลักเกณฑ์ที่ปฏิบัติได้จริงน่าอ่าน และผมว่าทุกคนในแวดวงการศึกษาควรอ่าน จะได้ข้อคิดในการบริหารโรงเรียนในเชิงร่วมสมัยมาก

หลักในการเลือกหนังสือของผม คือ อย่างแรกผมชอบอ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่อ่านง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ลึกซึ้ง ต่อมาก็เป็นหนังสือปรัชญา แต่อย่ามัวอ่านเฉพาะเรื่องสนุกอย่างเดียวนะครับ ขอให้อ่านหนังสือปรัชญาด้วย เพราะปรัชญาคือหนังสือย่อความ เหตุที่คนสมัยใหม่ การศึกษา การสื่อสารไม่มีคุณภาพเพียงพอ เป็นเพราะว่าเขาไม่เข้าใจย่อความ เพราปรัชญาคือวิชาย่อความชีวิต

การอ่านสำคัญและจำเป็นอย่างมากในชีวิตการทำงานของผม มันมีข้อมูลที่เราต้องใช้งาน เวลาเราไปบรรยายหรือพูดคุยกับใครอยู่ 2 อย่าง คือ ข้อมูลคงคลังที่เราได้อ่าน ได้ศึกษา และจำเอาไว้ และข้อมูลที่ประยุกต์เฉพาะเรื่องนั้นๆ เมื่อไรก็ตามที่เราคิดเรื่องที่จะพูดไม่ออกเราต้องไปเบิกจากข้อมูลเก่าซึ่งมันมาจากการอ่าน การฟังก็จะได้เปรียบ เหมือนกับคนมีเงินเยอะๆ และสามารถประยุกต์มาใช้ในหน้าที่การงานได้

อยากจะเชิญชวนผู้ปกครองควรมีอุบายให้ลูกของเราอ่านหนังสือ อาจจะขอให้เขาช่วยอ่านหนังสือให้ฟัง ช่วยหาข้อมูลต่างๆ ให้ โดยเอาประเด็นสำคัญๆ น่าสนใจมาอธิบายให้ฟัง แล้วเราก็ให้รางวัลเขาบ้าง (จ้างให้เขาอ่าน) ที่สำคัญ เด็กฉลาดขึ้นเราก็ฉลาดขึ้นด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น